วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552
วันเกิดแม่
ก่อนวันเกิดของแม่...
ประมาณ 4 วันก่อนหน้านี้ แม่ได้โทรมาคุยนู่นนี่ตามปกติ
แล้วจู่ๆ แม่ก็ถามว่า "รู้มั้ย? วันศุกร์นี้คือวันอะไร"
แอนก็เปิดปฏิทินดูแล้วตอบว่า "ก็วันเกิดแม่ไงคะ"
แม่ก็ชมที่จำวันเกิดแม่ได้ แล้วเล่าต่อว่า...
วันนี้พาร์ค (น้องคนกลาง) โทรมาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง
แล้วก็บอกว่านี่ใกล้วันเกิดเพื่อนแล้ว
แล้วจะไปฉลองกันที่นู่นนี่นั่น
แม่ก็เลยแกล้งถามน้องไปว่า...
'รู้มั้ย? วันศุกร์นี้คือวันอะไร'
น้องก็ตอบแค่ว่า 'ก็วันศุกร์ไง'
แม่เลยว่าน้องไปว่า...
'ทีวันเกิดเพื่อนน่ะจำได้ไม่มีลืมที่จะซื้อของขวัญ เลี้ยงฉลองให้
แต่พอทีวันเกิดของแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองนี่ทำไมถึงจำไม่ได้'!!
วัยรุ่นส่วนใหญ่ วันสำคัญมักมีให้กับเพื่อนและแฟนเสมอ
และใส่ใจกับวันสำคัญของคนอื่นมากกว่าที่จะใส่ใจคนใกล้ชิดที่สุด
ซึ่งนั่นไม่ดีเลย เพราะคนที่สำคัญที่สุดกลับไม่ได้อยู่ในวันสำคัญต่างๆ
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญอะไร แอนมักเลือกอยู่กับที่บ้านก่อนเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ วันเกิด คริสมาสต์ ฯลฯ
เพราะแอนถือว่า วันเหล่านั้นควรมอบให้กับผู้กำเนิดมากกว่า
ประมาณ 4 วันก่อนหน้านี้ แม่ได้โทรมาคุยนู่นนี่ตามปกติ
แล้วจู่ๆ แม่ก็ถามว่า "รู้มั้ย? วันศุกร์นี้คือวันอะไร"
แอนก็เปิดปฏิทินดูแล้วตอบว่า "ก็วันเกิดแม่ไงคะ"
แม่ก็ชมที่จำวันเกิดแม่ได้ แล้วเล่าต่อว่า...
วันนี้พาร์ค (น้องคนกลาง) โทรมาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง
แล้วก็บอกว่านี่ใกล้วันเกิดเพื่อนแล้ว
แล้วจะไปฉลองกันที่นู่นนี่นั่น
แม่ก็เลยแกล้งถามน้องไปว่า...
'รู้มั้ย? วันศุกร์นี้คือวันอะไร'
น้องก็ตอบแค่ว่า 'ก็วันศุกร์ไง'
แม่เลยว่าน้องไปว่า...
'ทีวันเกิดเพื่อนน่ะจำได้ไม่มีลืมที่จะซื้อของขวัญ เลี้ยงฉลองให้
แต่พอทีวันเกิดของแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองนี่ทำไมถึงจำไม่ได้'!!
วัยรุ่นส่วนใหญ่ วันสำคัญมักมีให้กับเพื่อนและแฟนเสมอ
และใส่ใจกับวันสำคัญของคนอื่นมากกว่าที่จะใส่ใจคนใกล้ชิดที่สุด
ซึ่งนั่นไม่ดีเลย เพราะคนที่สำคัญที่สุดกลับไม่ได้อยู่ในวันสำคัญต่างๆ
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญอะไร แอนมักเลือกอยู่กับที่บ้านก่อนเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ วันเกิด คริสมาสต์ ฯลฯ
เพราะแอนถือว่า วันเหล่านั้นควรมอบให้กับผู้กำเนิดมากกว่า
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552
หัวใจเปลี่ยนไป
มีชายใจดีคนหนึ่งเข้ารอรับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
เขาเป็นคนใจดีมาก และทุกคนก็รับเขา
วันหนึ่งชายใจดีได้รับข่าวดี ว่าเขาสามารถผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจได้แล้ว
แต่ชายใจดีไม่รู้หรอกว่า ใครเป็นผู้บริจาคหัวใจให้เขา
ต่อมา...หลังจากชายใจดีออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ได้เกิดเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้นในหมู่บ้านของชายใจดี
ทุกคนต่างฮือฮากันเมื่อคนร้ายที่ถูกจับได้ คือชายใจดีที่สุดในหมูบ้าน
ปรากฏว่าหัวใจที่ถูกเอามาเปลี่ยน
เป็นหัวใจของฆาตกรต่อเนื่องของหมู่บ้านข้างๆ
เพราะเหตุนี้...ชายใจดีจึงต้องถูกโทษประหาร
และได้รับคำประนามจากผู้คนในหมู่บ้านที่เขารัก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วสะเทือนใจเล็กๆ
คนธรรมดาอย่างแอนอ่านแล้วก็รู้สึกสงสารชายใจดี
แต่ถ้าในมุมมองกลับกัน...
หากคนที่ได้อ่านเรื่องนี้คือคนที่รอรับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจล่ะ?
เขาจะรู้สึกอย่างไร?
บางทีคนเขียนเรื่องเล่าอะไรออกมา ก็ไม่ได้คำนึงถึงผู้อ่านที่อาจจะตกอยู่ในสภาวะเดียวกันกับตัวละครในเรื่องนั้นๆเลย
เหมือนคนทุกวันนี้...
ที่เอาแต่ใส่ใจเนื้อเรื่องของตัวเอง จนละเลยเนื้อเรื่องของคนอื่นไป
การเอาใจเขาใส่ใจเรา มันเป็นเรื่องที่สำคัญ
เพราะความผูกพันธ์มันบอบบาง มีอะไรกระทบนิดหน่อยก็ขาดผึงได้แล้ว
เขาเป็นคนใจดีมาก และทุกคนก็รับเขา
วันหนึ่งชายใจดีได้รับข่าวดี ว่าเขาสามารถผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจได้แล้ว
แต่ชายใจดีไม่รู้หรอกว่า ใครเป็นผู้บริจาคหัวใจให้เขา
ต่อมา...หลังจากชายใจดีออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ได้เกิดเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้นในหมู่บ้านของชายใจดี
ทุกคนต่างฮือฮากันเมื่อคนร้ายที่ถูกจับได้ คือชายใจดีที่สุดในหมูบ้าน
ปรากฏว่าหัวใจที่ถูกเอามาเปลี่ยน
เป็นหัวใจของฆาตกรต่อเนื่องของหมู่บ้านข้างๆ
เพราะเหตุนี้...ชายใจดีจึงต้องถูกโทษประหาร
และได้รับคำประนามจากผู้คนในหมู่บ้านที่เขารัก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วสะเทือนใจเล็กๆ
คนธรรมดาอย่างแอนอ่านแล้วก็รู้สึกสงสารชายใจดี
แต่ถ้าในมุมมองกลับกัน...
หากคนที่ได้อ่านเรื่องนี้คือคนที่รอรับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจล่ะ?
เขาจะรู้สึกอย่างไร?
บางทีคนเขียนเรื่องเล่าอะไรออกมา ก็ไม่ได้คำนึงถึงผู้อ่านที่อาจจะตกอยู่ในสภาวะเดียวกันกับตัวละครในเรื่องนั้นๆเลย
เหมือนคนทุกวันนี้...
ที่เอาแต่ใส่ใจเนื้อเรื่องของตัวเอง จนละเลยเนื้อเรื่องของคนอื่นไป
การเอาใจเขาใส่ใจเรา มันเป็นเรื่องที่สำคัญ
เพราะความผูกพันธ์มันบอบบาง มีอะไรกระทบนิดหน่อยก็ขาดผึงได้แล้ว
วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552
การพนัน
การพนันเป็นสิ่งไม่ดี !
รู้ทั้งรู้แต่ทำไมยังอยากจะพนัน?
การพนันคือดวง
การพนันคือการโกง
ไม่เฮงจริงก็โดนกินเรียบ...
แต่ 'ความโลภ' ก็ทำให้เราหลงเข้าไปสู่ทางนั้น
มีปีนึงครอบครัวแอนและเพื่อนแม่อีก 4 ครอบครัว
ได้ตกลงไปเที่ยวปอยเป็ดกัน แล้วข้ามไปยังเขมร
เชื่อไหม? บริเวณทางเข้ามีคนรอทำเรื่องเข้าเขมรอยู่เยอะมาก
จนแอนยังตกใจเลย เพราะส่วนตัวแล้ว ในตอนนั้นคิดว่าเขมรเป็นประเทศ
ที่ยังไม่ค่อยพัฒนาซักเท่าไหร่ คงเหมือนๆพวกชาวเขาของไทยเรา
ยิ่งเห็นขอทานเดินแบมือขอเงินตามท้องถนนเป็นจำนวนมากด้วยแล้ว
แอนก็ยิ่งคิดภาพเขมรในแง่ลบเข้าไปใหญ่
แต่สุดท้ายแอนก็คิดผิด !
เพราะตั้งแต่นั่งรถตู้แล้วถูกพาเข้าไปยังบริเวณคาสิโนแล้ว
เหมือนภาพขอทานที่พบตอนผ่านประตูเข้ามาหายไปในทันที
นี่มันเหมือนลาสเวกัสขนาดย่อมดีๆนี่เอง!!!
โรงแรมหรูเรียงรายกันเป็นแถบ
ยิ่งภายในตัวโรงแรมด้วยแล้ว...ระดับ 5 ดาวไม่มีผิด!!
ค่าพักคืนละ 20,000 บาท แต่เราจะได้เป็นชิพตาย
เพื่อเอาไปเล่นในบ่อน หากเล่นได้ก็เหมือนมาพักฟรี กินฟรี
(ทางโรงแรมที่แอนไปพักกินฟรีได้ 24 ชม)
ดังนั้นเมื่อถึงห้องพักกันแล้ว บรรดาพ่อแม่ก็พากันเข้าบ่อนไป
ส่วนเด็กๆก็จะเล่นกันเอง หรือไม่ก็ไปนั่งเล่นพนันแบบหยอดตู้กัน
แอนไปนั่งโยกสล๊อตแมชชีนกับน้องคนเล็ก
ส่วนน้องคนกลางไปนั่งเล่นแทงม้ากับลูกเพื่อนแม่อีก 3-4 คน
ส่วนเด็กเล็กก็ไปนั่งเล่นเกมเซ็นเตอร์ แต่มีผู้ใหญ่คอยดูแลอยู่คนนึง
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง...
เงินในกระเป๋าแอนกับน้องคนเล็กกลายเป็น 0 ในพริบตา
ส่วนน้องคนกลางยังคงเล่นแทงม้าแบบหยอดเหรียญอยู่
แอนกับน้องคนเล็กเลยไปนั่งดูคนอื่นเล่นพนันแบบอื่นๆกัน
1 ชั่วโมงต่อมา...
น้องคนกลางก็หมดตูดเดินมาหา แล้วเล่าให้ฟังว่า
'ตอนแรกเล่นจากเงิน 200 เป็น 500 แล้ว แต่เพราะอยากได้อีกเลยเล่นต่อ'
สุดท้าย...ก็หมด!!
ต่างจากลูกเพื่อนแม่อีก 2 คน เป็นคู่พี่น้องผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าแอน
เค้านั่งเล่นอยู่อีกฟากของน้องแอน จำนวนเงินเริ่มเล่นเท่ากัน
แต่พอตอนหมดเหมือนเฮงจริง แทงตัวอ่อนสุด แล้วตัวอ่อนสุดดันชนะ
ได้เงินทีห้าร้อยกว่าบาท !!!! แล้วพอ! ไม่เล่นต่อ...
ทำให้แอนคิดได้ว่า คนเราล้วนมี 'ความโลภ' เหมือนกันหมด
ตอนแอนนั่งโยกสล๊อต แอนก็ไม่คิดอะไรอื่นนอกจากอยากได้เงิน
แม้ทุกครั้งที่โยก เรามักจะเสียเงินตาละ 20 แทนที่จะได้
ถ้าตอนนั้นแอนคิดได้ แล้วหยุด! แอนก็คงไม่เสียตังค์จนหมด
แต่เมื่ออยู่ตอนนั้น เมื่อรู้ตัว แอนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะ 'หยุด' หรือเปล่า?
รู้ทั้งรู้แต่ทำไมยังอยากจะพนัน?
การพนันคือดวง
การพนันคือการโกง
ไม่เฮงจริงก็โดนกินเรียบ...
แต่ 'ความโลภ' ก็ทำให้เราหลงเข้าไปสู่ทางนั้น
มีปีนึงครอบครัวแอนและเพื่อนแม่อีก 4 ครอบครัว
ได้ตกลงไปเที่ยวปอยเป็ดกัน แล้วข้ามไปยังเขมร
เชื่อไหม? บริเวณทางเข้ามีคนรอทำเรื่องเข้าเขมรอยู่เยอะมาก
จนแอนยังตกใจเลย เพราะส่วนตัวแล้ว ในตอนนั้นคิดว่าเขมรเป็นประเทศ
ที่ยังไม่ค่อยพัฒนาซักเท่าไหร่ คงเหมือนๆพวกชาวเขาของไทยเรา
ยิ่งเห็นขอทานเดินแบมือขอเงินตามท้องถนนเป็นจำนวนมากด้วยแล้ว
แอนก็ยิ่งคิดภาพเขมรในแง่ลบเข้าไปใหญ่
แต่สุดท้ายแอนก็คิดผิด !
เพราะตั้งแต่นั่งรถตู้แล้วถูกพาเข้าไปยังบริเวณคาสิโนแล้ว
เหมือนภาพขอทานที่พบตอนผ่านประตูเข้ามาหายไปในทันที
นี่มันเหมือนลาสเวกัสขนาดย่อมดีๆนี่เอง!!!
โรงแรมหรูเรียงรายกันเป็นแถบ
ยิ่งภายในตัวโรงแรมด้วยแล้ว...ระดับ 5 ดาวไม่มีผิด!!
ค่าพักคืนละ 20,000 บาท แต่เราจะได้เป็นชิพตาย
เพื่อเอาไปเล่นในบ่อน หากเล่นได้ก็เหมือนมาพักฟรี กินฟรี
(ทางโรงแรมที่แอนไปพักกินฟรีได้ 24 ชม)
ดังนั้นเมื่อถึงห้องพักกันแล้ว บรรดาพ่อแม่ก็พากันเข้าบ่อนไป
ส่วนเด็กๆก็จะเล่นกันเอง หรือไม่ก็ไปนั่งเล่นพนันแบบหยอดตู้กัน
แอนไปนั่งโยกสล๊อตแมชชีนกับน้องคนเล็ก
ส่วนน้องคนกลางไปนั่งเล่นแทงม้ากับลูกเพื่อนแม่อีก 3-4 คน
ส่วนเด็กเล็กก็ไปนั่งเล่นเกมเซ็นเตอร์ แต่มีผู้ใหญ่คอยดูแลอยู่คนนึง
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง...
เงินในกระเป๋าแอนกับน้องคนเล็กกลายเป็น 0 ในพริบตา
ส่วนน้องคนกลางยังคงเล่นแทงม้าแบบหยอดเหรียญอยู่
แอนกับน้องคนเล็กเลยไปนั่งดูคนอื่นเล่นพนันแบบอื่นๆกัน
1 ชั่วโมงต่อมา...
น้องคนกลางก็หมดตูดเดินมาหา แล้วเล่าให้ฟังว่า
'ตอนแรกเล่นจากเงิน 200 เป็น 500 แล้ว แต่เพราะอยากได้อีกเลยเล่นต่อ'
สุดท้าย...ก็หมด!!
ต่างจากลูกเพื่อนแม่อีก 2 คน เป็นคู่พี่น้องผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าแอน
เค้านั่งเล่นอยู่อีกฟากของน้องแอน จำนวนเงินเริ่มเล่นเท่ากัน
แต่พอตอนหมดเหมือนเฮงจริง แทงตัวอ่อนสุด แล้วตัวอ่อนสุดดันชนะ
ได้เงินทีห้าร้อยกว่าบาท !!!! แล้วพอ! ไม่เล่นต่อ...
ทำให้แอนคิดได้ว่า คนเราล้วนมี 'ความโลภ' เหมือนกันหมด
ตอนแอนนั่งโยกสล๊อต แอนก็ไม่คิดอะไรอื่นนอกจากอยากได้เงิน
แม้ทุกครั้งที่โยก เรามักจะเสียเงินตาละ 20 แทนที่จะได้
ถ้าตอนนั้นแอนคิดได้ แล้วหยุด! แอนก็คงไม่เสียตังค์จนหมด
แต่เมื่ออยู่ตอนนั้น เมื่อรู้ตัว แอนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะ 'หยุด' หรือเปล่า?
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552
พูดอย่าง เข้าใจอย่าง
มีหลายครั้งเลยเหมือนกัน ที่เราพูดอย่าง แล้วคนอื่นเข้าใจไปอีกอย่าง
ไม่รู้ว่าเราพูดจากำกวมเอง หรือว่าคนที่เราพูดด้วยไม่เข้าใจกันแน่
การใช้ภาษาบางทีก็ดูง่ายๆ เพราะเป็นภาษาที่เราใช้มาตั้งแต่เกิด
แต่บางทีก็ดูมันซับซ้อนเหลือเกิน เวลาที่ใช้มันแล้วผิดพลาด
อาจเพราะมันจำกัดด้วยเรื่องของอายุ เพศ การศึกษา ที่อยู่ หรืออื่นๆก็แล้วแต่ด้วย จึงทำให้การสื่อสารบิดเบือนไปได้
ไม่รู้ว่าเราพูดจากำกวมเอง หรือว่าคนที่เราพูดด้วยไม่เข้าใจกันแน่
การใช้ภาษาบางทีก็ดูง่ายๆ เพราะเป็นภาษาที่เราใช้มาตั้งแต่เกิด
แต่บางทีก็ดูมันซับซ้อนเหลือเกิน เวลาที่ใช้มันแล้วผิดพลาด
อาจเพราะมันจำกัดด้วยเรื่องของอายุ เพศ การศึกษา ที่อยู่ หรืออื่นๆก็แล้วแต่ด้วย จึงทำให้การสื่อสารบิดเบือนไปได้
วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552
โฟม กับ พลาสติก
วันนี้ตอนเดินกลับหอก็แวะหาของกินก่อนขึ้นห้อง
พอดีเดินผ่านรถเข็นขายบรรดาหมูคู่กับข้าวเหนียว
เลยเลือกซื้อข้าวเหนียวหมูฝอยมา 1 กล่องมาทานเป็นข้าวเย็น
ตอนที่นั่งมองป้าเขาตักข้าวเหนียวและหมูฝอยใส่กล่องโฟม
ก็คิดแล้วว่า อาหารทุกอย่างถ้าซื้อกลับบ้านนี่ ยังไงก็หนีไม่พ้นโฟม กับถุงพลาสติกเลยจริงๆ
พอคิดมาถึงตอนนี้ ก็คิดต่อไปว่า ถุงขนม ขวดน้ำ แก้วน้ำ ทั้งหมดนี้ก็ทำจากถุงพลาสติกทั้งนั้น
เวลาซื้อขนม หรือของกิน เราไม่ได้คิดถึงเรื่องการทำลายหรอก
เราเพียงแค่ซื้อ กิน แล้วก็ทิ้ง ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าทิ้งแล้วขยะที่เกิดจากโฟม และพลาสติกเหล่านี้จะถูกย่อยสลายยังไง แล้วจะมีภัยต่อโลกหรือเปล่า
แต่จะหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไปก็ทำได้ยากอีก
เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ที่ทุกวันเราต้องเจอ ต้องใช้
ในฐานะนักศึกษาออกแบบแล้ว ก็อยากให้มีการออกแบบอะไรสักอย่างเพื่อมาทดแทนส่วนตรงนี้จังเลย อย่างน้อยๆเป็นโฟม หรือพลาสติกที่ใช้แล้วย่อยสลายโดยไม่ทำลายธรรมชาติได้ก็ดี
พอดีเดินผ่านรถเข็นขายบรรดาหมูคู่กับข้าวเหนียว
เลยเลือกซื้อข้าวเหนียวหมูฝอยมา 1 กล่องมาทานเป็นข้าวเย็น
ตอนที่นั่งมองป้าเขาตักข้าวเหนียวและหมูฝอยใส่กล่องโฟม
ก็คิดแล้วว่า อาหารทุกอย่างถ้าซื้อกลับบ้านนี่ ยังไงก็หนีไม่พ้นโฟม กับถุงพลาสติกเลยจริงๆ
พอคิดมาถึงตอนนี้ ก็คิดต่อไปว่า ถุงขนม ขวดน้ำ แก้วน้ำ ทั้งหมดนี้ก็ทำจากถุงพลาสติกทั้งนั้น
เวลาซื้อขนม หรือของกิน เราไม่ได้คิดถึงเรื่องการทำลายหรอก
เราเพียงแค่ซื้อ กิน แล้วก็ทิ้ง ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าทิ้งแล้วขยะที่เกิดจากโฟม และพลาสติกเหล่านี้จะถูกย่อยสลายยังไง แล้วจะมีภัยต่อโลกหรือเปล่า
แต่จะหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไปก็ทำได้ยากอีก
เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ที่ทุกวันเราต้องเจอ ต้องใช้
ในฐานะนักศึกษาออกแบบแล้ว ก็อยากให้มีการออกแบบอะไรสักอย่างเพื่อมาทดแทนส่วนตรงนี้จังเลย อย่างน้อยๆเป็นโฟม หรือพลาสติกที่ใช้แล้วย่อยสลายโดยไม่ทำลายธรรมชาติได้ก็ดี
วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ฉายา
ไม่ว่าจะเป็นตอนประถม มัธยม หรือแม้กระทั่งมหาลัย
เมื่อเปลี่ยนกลุ่มเพื่อน ฉายาของแต่ละที่ก็จะเปลี่ยนไป
ฉายา...มาจากอะไรล่ะ?
ฉายาก็คงมาจากความเป็นตัวเราที่คนอื่นมองเห็นล่ะมั้ง
คนอื่นเห็นเรามีนิสัย ลักษณะเด่นอะไร เขาก็จะเอามาตั้งเป็นฉายาให้
แล้วอย่างนี้มันดีไหมล่ะเนี่ย?
มันอาจจะดีตรงที่มันได้แสดงถึงความสนิทสนมในหมู่เพื่อน
แต่ก็มีคนจำพวกหนึ่ง ที่ถูกตั้งฉายาเพราะถูกล้อเลียนเหมือนกัน
สรุปก็คือ ฉายา มันจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่กับสถานภาพของผู้ถูกเรียก..?
ฉายาถือว่าเป็นแฟชั่นได้มั้ย?
แอนว่ามันคือ 1 ในแฟชั่นของหมู่วัยรุ่นเลยล่ะ
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครขยันตั้งฉายากันให้ถ้วนหน้าอย่างนี้
แล้วถ้าทุกคนเอาแต่ใช้ฉายาเรียกกัน ชื่อเล่นก็คงน่าสงสารแย่
เมื่อเปลี่ยนกลุ่มเพื่อน ฉายาของแต่ละที่ก็จะเปลี่ยนไป
ฉายา...มาจากอะไรล่ะ?
ฉายาก็คงมาจากความเป็นตัวเราที่คนอื่นมองเห็นล่ะมั้ง
คนอื่นเห็นเรามีนิสัย ลักษณะเด่นอะไร เขาก็จะเอามาตั้งเป็นฉายาให้
แล้วอย่างนี้มันดีไหมล่ะเนี่ย?
มันอาจจะดีตรงที่มันได้แสดงถึงความสนิทสนมในหมู่เพื่อน
แต่ก็มีคนจำพวกหนึ่ง ที่ถูกตั้งฉายาเพราะถูกล้อเลียนเหมือนกัน
สรุปก็คือ ฉายา มันจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่กับสถานภาพของผู้ถูกเรียก..?
ฉายาถือว่าเป็นแฟชั่นได้มั้ย?
แอนว่ามันคือ 1 ในแฟชั่นของหมู่วัยรุ่นเลยล่ะ
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครขยันตั้งฉายากันให้ถ้วนหน้าอย่างนี้
แล้วถ้าทุกคนเอาแต่ใช้ฉายาเรียกกัน ชื่อเล่นก็คงน่าสงสารแย่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)